ไม่ควรเพิ่มปริมาณกลูเตนในผลิตภัณฑ์ปราศจากกลูเตน
ผู้เชี่ยวชาญของประเทศออสเตรเลียกังวลถึงการเพิ่มค่าการปนเปื้อนของกลูเตนที่ยอมรับได้ในอาหารที่แสดงฉลากอาหารปราศจากกลูเตนในปี ค.ศ.1995 ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ออกกฎหมายการแสดงฉลากอาหารปราศจากกลูเตน (gluten free food) ว่าอาหารที่จะแสดงในฉลากเป็นอาหารปราศจากกลูเตนได้นั้นต้องเป็นอาหารที่ไม่มีการปนเปื้อนของกลูเตน ต่อมา Coeliac Australia และ Australian Food and Grocery Council (AFGC) โน้มน้าวให้ Food Standards Australia New Zealand (FSANZ) เพิ่มปริมาณกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารที่แสดงฉลากอาหารปราศจากกลูเตน โดยจากเดิมที่ไม่มีกลูเตนปนเปื้อนสามารถมีปริมาณกลูเตนได้ในผลิตภัณฑ์ แต่ต้องมีปริมาณต่ำกว่า 20 ส่วนในล้านส่วนเพื่อให้มีอาหารปราศจากกลูเตนในตลาดสำหรับผู้บริโภคมากขึ้น
ประธานของ Coeliac Australia’s medical advisory ให้ทัศนคติเกี่ยวกับการกำหนดปริมาณกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนว่า เมื่อมีการกำหนดระดับกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนก็ควรมีการพัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์หาปริมาณกลูเตนที่ถูกต้องดร. Jason Tye-Din กล่าวว่า ปัจจุบันความสามารถในการวัดปริมาณกลูเตน (sensitivity) ของชุดทดสอบสามารถวัดกลูเตนที่ปนเปื้อนในอาหารได้ต่ำสุดในปริมาณ 3 ส่วนในล้านส่วน ต่างจาก10 ปีที่ผ่านมาที่ชุดทดสอบสามารถวัดได้ต่ำสุดในปริมาณ 30 ส่วนในล้านส่วนการที่อุตสาหกรรมอาหารจะผลิตอาหารที่มีปริมาณกลูเตนน้อยกว่าระดับต่ำสุดที่ชุดทดสอบสามารถตรวจได้นั้นยากมาก จึงไม่สามารถบอกปริมาณกลูเตนในผลิตภัณฑ์ได้แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหารให้มีปริมาณกลูเตนที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรค coeliac
อย่างไรก็ตาม ดร.Geoff Forbes นักวิจัยด้านระบบย่อยอาหารของโรงพยาบาล The Royal Perth และอาจารย์ด้านคลินิกมหาวิทยาลัย Western Australia กล่าวกับFoodNavigator-Asia ถึงการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับปริมาณกลูเตนที่ปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนเป็น 20 ส่วนในล้านส่วน ทำให้ความปลอดภัยของผู้ป่วยโรค coeliacต่อการบริโภคอาหารปราศจากกลูเตนมีความเสี่ยงมากขึ้น ส่วนกฎหมายการแสดงฉลากอาหารปราศจากกลูเตนของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั้นมีความเข้มงวดมาก คือไม่อนุญาตให้มีกลูเตนปนเปื้อน ทำให้อาหารมีความปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรค coeliac
ดร.Geoff Forbes ได้เขียนจดหมายถึง the Medical Journal of Australia เกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องการกำหนดปริมาณกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนว่ามีความเสี่ยงมากสำหรับการบริโภคอาหารปราศจากกลูเตน ทั้งอันตรายต่อสุขภาพและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโรค coeliac เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละคนมีความเหมาะสมในการบริโภคกลูเตนเข้าสู่ร่างกายแล้วไม่เป็นอันตรายไม่เท่ากันนอกจากนี้ยังกล่าวถึงรายงานที่แนะนำให้แสดงฉลากทั้งสองส่วน คือบอกปริมาณกลูเตนในอาหารที่แน่นอนและแสดงฉลากว่ามีปริมาณกลูเตนต่ำกว่า 20 ส่วนในล้านส่วนหรือไม่มีกลูเตนปนเปื้อน ซึ่งการบอกปริมาณกลูเตนในอาหารที่แน่นอนนั้นจะสร้างความสับสนให้แก่ผู้บริโภค เพราะในฉลากอาหารแสดงว่าเป็นอาหารปราศจากกลูเตนแต่มีการระบุปริมาณกลูเตนลงในส่วนประกอบ ในผู้ผลิตอาหารหลายรายไม่แสดงฉลากอาหารว่าเป็นอาหารปราศจากกลูเตน เนื่องจากไม่แน่ใจว่าปริมาณกลูเตนเท่าใดที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วยโรค coeliac การอ้างถึงรายงานของ US FDA ว่าปริมาณกลูเตนที่ปลอดภัยต่อผู้ป่วยโรค coeliac น้อยกว่าหนึ่งส่วนในล้านส่วน พร้อมกล่าวว่าปริมาณกลูเตนเท่าใดจึงปลอดภัยต่อผู้ป่วยโรค coeliac ยังสร้างความสับสนให้แก่ผู้บริโภค ในกรณีที่มีการศึกษาผู้ป่วยโรค coeliac ของประเทศออสเตรเลียถึงปริมาณกลูเตนที่เหมาะสมอยู่ที่0.1 ส่วนในล้านส่วน กฎหมายเกี่ยวกับปริมาณกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนกลับไปสู่หัวข้อเดิมเกี่ยวกับการเปลี่ยนปริมาณกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนเป็นน้อยกว่า 20 ส่วนในล้านส่วนหรือไม่
ดร. Forbes ได้โต้แย้งจดหมายของ Tye-Din ที่กล่าวถึง the Catassi Paper เกี่ยวกับการทดลอง double-blind เพื่อการหาปริมาณกลูเตนที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยโรค coeliac ว่าเป็นการศึกษาเพียง 3 กลุ่มในผู้ป่วย 13 คนเท่านั้น และผู้ป่วยบางรายที่ศึกษาอาจเป็นผู้ที่ไม่มีอาการรุนแรง จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยปลอดภัยเมื่อได้รับกลูเตนที่แสดงอาการแพ้เพียงเล็กน้อยและหลายรายแสดงการเปลี่ยงแปลงเล็กน้อยในลำไส้เล็ก ส่วนรายงานที่สรุปถึงการบริโภคอาหารปนเปื้อนกลูเตนของผู้ป่วยโรค coeliac ว่าการบริโภคกลูเตนน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมของอาหารต่อวัน แต่เมื่อมีการนำมาตีความในรายงานกลับแสดงว่าผู้ป่วยโรค coeliac บริโภค 10 มิลลิกรัมต่อวัน (10 มิลลิกรัมต่ออาหาร 500 กรัม เท่ากับ 20 ส่วนในล้านส่วน) จะปลอดภัยถือว่าผิดจากการทดลองอย่างเห็นได้ชัดอย่างไรก็ตาม ดร. Forbes ได้คัดค้านการกำหนดค่าที่เหมาะสมของปริมาณกลูเตนที่ปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนและการกำหนดเทคโนโลยีในการตรวจสอบ รวมถึงแนะนำ Coeliac Australia ว่าปริมาณกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนได้ในอาหารปราศจากกลูเตนควรเป็นปริมาณกลูเตนที่สามารถวัดได้ เช่น น้อยกว่า 1-3 ส่วนในล้านส่วน
ในปัจจุบันการกำหนดค่ากลูเตนที่ยอมรับได้จากไม่มีการปนเปื้อนจนถึงต่ำกว่า 20 ส่วนในล้านส่วนนั้นอาจยังไม่เข้มงวดเพียงพอ นอกจากนี้ ดร. Forbes ยอมรับว่าการลดค่ากลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนของประเทศยุโรปปี ค.ศ. 2009แคนนาดาปี ค.ศ.2011 และล่าสุดประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรค coeliac สำหรับการกำหนดระดับกลูเตนที่สามารถปนเปื้อนในอาหารปราศจากกลูเตนของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั้นยังไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานมาสนับสนุนการกำหนดระดับกลูเตนดังกล่าว